ถ้าคุณเคยใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง เคยขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน  หรือใช้ถนนหนทางทั่วประเทศไทย นั่นแปลว่า คุณเคยใช้บริการผลงานที่มี 'บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ  Index International Group Public Company Limited ' ซึ่งเป็น บริษัทที่ปรึกษางานด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ทำหน้าที่ศึกษาสำรวจ และออกแบบงานโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี

        Index International Group เริ่มก่อตั้งในปี 2526 โดยมี 'ดร.ชัยณรงค์ ณ ลำพูน' คุณพ่อของ  'คุณรัฐวิชญ์ ณ ลำพูน' เป็นหัวเรือหลักในการก่อร่างสร้างธุรกิจจนเป็นที่รู้จักในฐานะแนวหน้าของบริษัทวิศวกรรมที่ปรึกษาในประเทศไทย รวมถึงเป็นกำลังหลักในการผลักดันการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ตั้งแต่ระบบขนส่งมวลชน  ทางราง ท่าอากาศยาน ระบบทางด่วน ไปจนถึงคลังน้ำมัน

        ก่อนรุ่นลูกอย่าง 'คุณรัฐวิชญ์' และพี่น้องมารับช่วงต่อและตัดสินใจพา อินเด็กซ์ฯ ก้าวไปอีกขั้นด้วยการผลักดัน บริษัทฯ ที่มีอายุเกือบ 40 ปี เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ

        จุดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ 'วิสัยทัศน์' ของ Index International Group และผู้บริหารขององค์กร ที่สามารถพาบริษัทขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งผู้บริหารของ Index International Group มองการนำเทคโนโลยีมายกระดับขีดความสามารถขององค์กร รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีอย่างไร ?

        ร่วมพูดคุยกับ 'คุณรัฐวิชญ์ ณ ลำพูน'รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หนึ่งในทายาทรุ่นสองและผู้บริหารที่เริ่มจากงานธุรการ ก่อนรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว

[ เข้าใจงาน รู้จักเทคโนโลยี ผลักดันองค์กรได้เต็มศักยภาพ ]

        'คุณรัฐวิชญ์' ใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ที่ ' Index International Group' กับคุณพ่อและครอบครัว เมื่อเรียนจบปริญญาตรีก็เริ่มเข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัว โดยเริ่มจากงานเล็กๆ อย่าง 'งานธุรการ' ก่อน หลังจากนั้นถึงได้ขยับไปสู่แผนกอื่นๆ อย่างเช่น งานทรัพยากรบุคคล ออกไปเรียนรู้ไซต์งานจริง จนกระทั่งไปเรียนต่อสถาบัน AIT และกลับมาทำงานในตำแหน่งบริหาร

        เป็นสาเหตุให้ 'คุณรัฐวิชญ์' เข้าใจระบบงานของบริษัทฯ ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ รวมถึงใกล้ชิดคนทำงานเพียงพอที่จะค้นพบช่องทางที่จะผลักดันศักยภาพของอินเด็กซ์ฯ ให้ไปไกลมากกว่าที่เคยเป็นมา

        เพราะงานของ Index International Group เป็นงานวิศวกรรมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำงานกับเทคโนโลยีอยู่แล้ว โดยเฉพาะโปรแกรมทางด้านวิศวกรรมหลายๆ ตัว อาทิ AutoCAD, SiteCAD ฯลฯ หลัง 'คุณรัฐวิชญ์' เข้ามารับตำแหน่งบริหารจึงพยายามอัปเกรดโปรแกรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงนำเข้าโปรแกรมใหม่ๆ มาให้ทีมทดลองใช้

        นอกเหนือจากงานวิศวกรรมแล้ว ช่วงเวลาสำคัญที่ Index International Group เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจในกระบวนการทำงาน คือ ช่วงก่อนการนำบริษัทฯ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องเข้าสู่ปี 2564 ที่จะต้องเริ่มนำกระบวนการทำงานทั้งหมดเข้าสู่ระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจสอบบัญชี ระบบบริหารงานบุคคล ระบบธุรการและเอกสารอื่นๆ ทำให้ผู้บริหารและพนักงานต้องปรับตัวเข้ากับแนวทางใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง

[ ระบบ D AGM  สะดวก แม่นยำ ลดต้นทุน ]

        หนึ่งในเทคโนโลยีที่ Index International Group เลือกนำมาปรับใช้ในการทำงาน คือ ระบบ D AGM หรือระบบลงทะเบียนและนับคะแนนการประชุมผู้ถือหุ้นของ PTT Digital ที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การลงทะเบียน การระบุวาระประชุม การลงคะแนน การนับคะแนนแบบเรียลไทม์ และการสรุปผลการประชุม

        โดย ‘ระบบ D AGM’ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ‘ระบบ D AGM’ ที่ PTT Digital ให้บริการระบบลงทะเบียนและนับคะแนนการประชุม ณ สถานที่ประชุมผู้ถือหุ้น ที่ PTT Digital มีประสบการณ์การให้บริการมากว่า 10 ปีแล้ว

        อีกรูปแบบ คือ ‘ระบบ D AGM Online’ ที่ PTT Digital ให้บริการระบบลงทะเบียนและนับคะแนนการประชุมแบบออนไลน์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นในยุคโควิด-19

        'คุณรัฐวิชญ์' อธิบายว่า ช่วงที่ Index International Group เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นช่วงเวลาเดียวกับวิกฤต Covid-19 พอดี ทำให้บริษัทฯ ต้องจัดหาระบบการประชุมผู้ถือหุ้นฯ ที่สะดวกแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และเหมาะกับสถานการณ์ Social Distance เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ก่อนค้นพบระบบ D AGM Online ของ PTT Digital และตัดสินใจนำมาใช้ในที่สุด

        “ระบบ D AGM Online ช่วยเราประหยัดไปได้มาก และทำให้การประชุมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แม้แรกๆ ผู้ถือหุ้นจะยังไม่ชิน แต่หลังจากผู้ถือหุ้นเริ่มปรับตัวได้ การประชุมก็สะดวกราบรื่น ระบบ D AGM Online จึงถือเป็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับบริบทที่เกิดขึ้นจริงได้เป็นอย่างดี”

[ เปลี่ยนแปลงต้องเน้นสื่อสาร รักษาบุคลากรทรงคุณค่า-เพิ่มเลือดใหม่  ]

        'คุณรัฐวิชญ์' กล่าวว่า ความท้าทายของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน คือ การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากในหมู่ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในสายงานมานาน แต่ส่วนที่ทำได้ คือ “สื่อสารให้ดี” เพราะการเปลี่ยนแปลงในแง่การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าองค์กรไม่ปรับตัว ก็จะไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้เช่นกัน

        วิธีการของ Index International Group คือ ผู้เชี่ยวชาญทำได้มากน้อยแค่ไหนให้ลองทำดูก่อน ส่วนที่ทำไม่ได้ให้ค้นหาทีมคนรุ่นใหม่ มาสนับสนุนการทำงานของเหล่าวิศวกรผู้เชี่ยวชาญแทน ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้งานเดินต่อไปได้  ไม่สะดุด รักษาบุคลากรทรงคุณค่า และทำให้องค์กรเดินหน้าไปได้ด้วย

        โดย 'คุณรัฐวิชญ์' ประเมินว่า Key Success ของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน คือผู้บริหารจะต้องเข้าใจองค์กรและเข้าใจเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ก่อนจะถ่ายทอดให้กับบุคลากรในองค์กรนำไปสู่การปรับใช้งานจริง ถ้าปราศจากความเข้าใจของผู้บริหารก็ยากที่จะเลือกนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานได้อย่างเหมาะสม

        แผนระยะยาวต่อจากนี้ของอินเด็กซ์ฯ คือ ให้ทีม Tech Talent ขององค์กรเตรียมพร้อมวางแผนสู่การเปลี่ยนแปลงให้ทันกับยุคสมัยเสมอ ตอนนี้ทีมกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบและศึกษาเพิ่มเติมว่ายังมีช่องว่างไหนอีกบ้างที่ต้องการเติมเต็มด้วยเทคโนโลยี เพื่อที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

        โดย ‘คุณนิยม’ ให้แง่คิดว่า ในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีระบบซับซ้อน นโยบายและโครงสร้างการกำกับดูแลถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ตั้งแต่การกำหนดทิศทาง ติดตาม และการสื่อสารที่ดี ไม่ให้ขาดช่วง ให้ทุกช่วงสัมพันธ์กัน ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุม เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านระบบงานสู่ดิจิทัลเป็นไปได้อย่างราบรื่น

        ด้วยเหตุนี้ในกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัล จึงต้องเริ่มต้นโดย ‘ผู้บริหาร’ ที่ต้องมาพร้อมกับความรู้และความเข้าใจด้านดิจิทัล ยกตัวอย่างเช่นส่วนเล็กๆ ที่มีความสำคัญมหาศาลในการทำงานอย่าง ‘การประชุมในระดับบริหาร’ ที่จะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะการประชุมมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางขององค์กร ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับการประชุมให้มีประสิทธิภาพเป็น Smart Meeting จึงเป็นอีกสิ่งที่สำคัญและผู้บริหารควรให้ความสำคัญ

[ มองเป้าหมายให้ชัด หาตัวเองให้เจอ แล้วโตอย่างยั่งยืน ]

        สุดท้าย 'คุณรัฐวิชญ์' ยังได้ฝากแง่คิดสำหรับเหล่าผู้บริหารหรือผู้ประกอบการที่ต้องการจะพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จอย่างยาวนานเช่นเดียวกับ ‘Index International Group’ ว่า ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นต้นทุน การบริหารจัดการ เครือข่าย และที่สำคัญคือ ‘เทคโนโลยี’ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไปไกลมากและมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้หลายๆ องค์กร ทำภารกิจของตัวเองสำเร็จลุล่วงได้เร็วขึ้น ดีขึ้น

        “แต่อยากให้ผู้ประกอบการเข้าใจธุรกิจของตัวเองให้ดีก่อนว่า เราทำธุรกิจอะไร อยู่ตรงไหนในห่วงโซ่อุปทาน และมีเป้าหมายจะพาธุรกิจไปสู่จุดไหนในอนาคต หลังจากนั้นจะได้รู้ว่าเส้นทางในการเดินไปถึงเป้าหมายจำเป็นจะต้องอาศัยปัจจัยส่งอะไรบ้าง

        แล้วจึงย้อนกลับมาว่าเราจะหาปัจจัยเหล่านั้นมาจากไหนและเทคโนโลยีอะไรที่จะสามารถนำมาช่วยธุรกิจเราได้ เพราะแต่ละองค์กรอาจจะเหมาะกับเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน บางครั้งเร็วไปก็ไม่ดี ใหญ่ไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี ไม่จำเป็นว่าลงทุนมากและ   ลงทุนเร็วจะดีเสมอไป แต่ต้องลงทุนให้เหมาะสมกับองค์กร เหมาะสมกับพนักงาน และสามารถผลักดันให้องค์กรเติบโตไปอย่างยั่งยืนได้ด้วย”