Digital ID เทคโนโลยียืนยันตัวตน กุญแจสำคัญของการพัฒนาธุรกิจและโลกยุคใหม่

 

          เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาก้าวไปข้างหน้ามากขึ้น ความสามารถในการสื่อสารโต้ตอบกับคนอื่นๆ ทั้งในแง่ของบุคคลและองค์กร ก็เพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน ในสมัยก่อนเมื่อเราอยู่ในสังคมขนาดเล็ก ทุกคนต่างรู้จักชื่อของกันและกัน แต่เมื่อสังคมของเราใหญ่ขึ้นมีจำนวนประชากรในสังคมมากขึ้น ก็จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนเพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โลกมีการสื่อสารและเชื่อมต่อถึงกันมากยิ่งขึ้น ดิจิทัลไอดี (Digital ID) จึงเกิดขึ้นเพื่อเข้ามาช่วยรับรองตัวตนของบุคคลแบบออนไลน์ เพื่อสร้างความแม่นยำ ปลอดภัยในการยืนยันตัวตน ให้ทุกคนสามารถทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในหลากหลายรูปแบบได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจ

 

Digital ID คืออะไร

          Digital ID กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกของเทคโนโลยี ทั้งในภาคประชาชนผู้ใช้งานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และในภาคธุรกิจที่รองรับการขยายโอกาสในการสร้างบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น Digital ID นั้นหมายถึงคุณลักษณะหรือชุดของคุณลักษณะที่ได้รับการรวบรวม และบันทึกในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งสามารถใช้เพื่อระบุตัวบุคคลรองรับ และยืนยันความสามารถในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับภาคประชาชน และธุรกิจอย่างหลากหลาย แค่ทำการยืนยันตัวตนเพียงครั้งเดียว ต่อไปก็สามารถทำธุรกรรมออนไลน์กับภาครัฐรวมถึงภาคเอกชนโดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อกับองค์กร หรือเตรียมสำเนาเอกสารยืนยันตัวตนซึ่งยากต่อการพิสูจน์  ทำให้ประหยัดทั้งเวลา ทรัพยากรบุคคล กระบวนการ และค่าใช้จ่ายด้วย

 

คุณบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID

 

          คุณบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID ซึ่งเกิดจากหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทในภาคอุตสาหกรรมการเงิน รวมถึง ธนาคารพาณิชย์ไทย มากกว่า 60 บริษัท ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Digital ID ว่า สมัยก่อนมีการปลอมแปลงเอกสารจำนวนมาก ซึ่งเกิดจากการทำธุรกรรม และใช้สำเนาบัตรประชาชน เซ็นรับรองความถูกต้อง ซึ่งมีโอกาสในการปลอมแปลงกันได้ง่ายมาก ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับการทำธุรกรรมของคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีมารองรับการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ในกระบวนการซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาการยืนยันตัวตนแบบดิจิทัล  จึงเกิดเป็น Digital ID ที่เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการยืนยันตัวตนจากรูปแบบกระดาษเป็นดิจิทัล ที่มีมาตรฐานชัดเจน สามารถระบุตัวตนของแต่ละคนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้

          “พอเปลี่ยนจากกระดาษมาเป็น Digital ID มันตรงกันข้ามกันเลย เพราะมันไม่มีสำเนา มันไม่มีลายเซ็นบนเอกสารแล้ว ทำให้การปลอมแปลง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยกเว้นเจ้าตัวทำด้วยตัวเอง”

 

มาตรฐานและประโยชน์ของ Digital ID

โดย Digital ID นั้นจะมีการใช้มาตรฐานสามส่วนรวมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าการพิสูจน์ตัวตนของเรานั้นถูกต้องนั่นก็คือ

1. Something you have เช่น บัตรประชาชน

2. Something you are คือรูปในชิป เปรียบเทียบกับหน้าเซลฟี่ และเปรียบกับลายนิ้วมือ ซึ่งในชิปจะมีสิ่งนั้นอยู่ ตอนที่เราใช้ในการยืนยันตัวตน จะมีการขอเก็บข้อมูลเพื่อไปเปรียบเทียบหลายๆ อย่าง

3. Something you know คือ PIN หรือข้อมูลที่ผู้ใช้งานกำหนดเอง เช่น  PIN ของ Mobile Banking เพื่อยืนยัน และจำกัดเฉพาะมือถือที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น

 

คุณบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID

 

          แน่นอนว่า ความท้าทายของเทคโนโลยีเหล่านี้คือการเข้าถึงผู้ใช้งานในจำนวนมากซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นความท้าทายอย่างมากที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของคนที่ทำกันมาตลอด คุณบุญสันต์อธิบายต่อว่า       

          “การใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นวิธีการที่เราทำกันมานาน 20-30 ปี ซึ่งทุกคนคุ้นชินกับการเซ็นเอกสารในการยืนยันตัวตนที่ทำกับทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นการเปลี่ยนให้ทุกคนมาใช้ Digital ID ถือเป็นความท้าทายอีกส่วนหนึ่งเพราะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และเปลี่ยนผ่าน”

การใช้เปรียบเทียบลายนิ้วมือเพื่อพิสูจน์ตัวตน

          แต่หากว่า สามารถทำได้จริงเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไป อย่างการยื่นภาษีออนไลน์ การขอสินเชื่อ การทำธุรกรรมของรัฐ การสมัครงาน การเดินเรื่องที่ขนส่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เมื่อเชื่อมต่อถึงกันได้แล้วจะช่วยทำให้โครงการช่วยเหลือต่างๆ นั้นเข้าถึงบุคคลได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น เป็นหัวใจของการช่วยยกระดับบริการของภาครัฐด้วย

 

การใช้งาน Digital ID สำหรับประชาชน

          ในส่วนของประชาชนทั่วไป เมื่อมี Digital ID ก็จะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าของธนาคาร A ที่มีดิจิทัลไอดีกับทางธนาคารเรียบร้อยแล้ว ต้องการไปขอกู้เงินที่ธนาคาร B ซึ่งเมื่อก่อนสิ่งที่ต้องทำคือเดินทางไปที่ธนาคาร A เพื่อไปขอรายการเดินบัญชีเพื่อมายืนยันเรื่องรายได้ต่างๆ หลังจากนั้นก็เอากลับมายื่นที่ธนาคาร B แต่ด้วย Digital ID ที่เข้ามาช่วยการยืนยันตัวตน ลูกค้าสามารถไปที่ธนาคาร B แล้วขอรายการเดินบัญชีที่ทางธนาคาร A ให้ส่งมาที่ธนาคาร B ได้เลย ซึ่งจากตรงนี้เห็นได้ชัดว่า Digital ID เข้ามาช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก ลดความเสี่ยงในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสาร เพราะไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาในการยืนยันตัวตน อีกทั้งยังช่วยประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายและเวลา

 

คุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด

 

การใช้งาน Digital ID ในภาคธุรกิจ

          ในส่วนของภาคธุรกิจเองก็เริ่มมีการนำ Digital ID มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ลดภาระของพนักงาน และเพิ่มความปลอดภัยในองค์กรด้วย ยกตัวอย่างเช่น บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารระดับ Enterprise ของกลุ่ม ปตท. คุณกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ปัจจุบันนี้เริ่มมีการนำ Digital ID มาพิจารณาใช้ประกอบในกระบวนการทำงาน  เพราะเชื่อว่านี่คืออนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเรา โดยปัจจุบัน PTT Digital ร่วมมือกับ NDID เพื่อพัฒนาระบบ และนำ Digital ID มาใช้ในการยืนยันตัวตนในกระบวนการทำงานขององค์กรหลายรูปแบบ ตั้งแต่การยืนยันตัวตนผู้สมัครงาน เพื่อให้คนที่มาสมัครไม่ต้องยื่นสำเนาเอกสารต่างๆ เหมือนเมื่อก่อน อำนวยความสะดวกกับทั้งฝ่ายบุคคล และผู้สมัครงาน นอกจากนี้ยังมีแผนในการใช้ Digital ID เพื่อยืนยันตัวตนในเรื่องการเข้าออกอาคาร ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการบริหารจัดการผู้เข้าออกอาคารได้ด้วย สำหรับในอนาคต PTT Digital เองก็พิจารณาการพัฒนาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ Digital ID ของบริษัทกลุ่ม ปตท. และอาจขยายการดำเนินงานให้บริการออกไปนอกกลุ่ม ปตท. ในลำดับถัดไป”

การใช้ Digital ID ด้วยการสแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตน

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

          ในส่วนของอนาคตที่จะมาถึง คุณบุญสันต์เชื่อว่าความชัดเจนในการนำ Digital ID มาใช้งานจะค่อยๆ เกิดขึ้น โดยต่อไปเราจะใช้มือถือในการทำธุรกรรมที่ใดก็ได้ ทั้งเจอหน้าและไม่เจอหน้า การติดต่อเข้าตึกไม่จำเป็นต้องแลกบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน แต่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อยืนยันตัวตนผ่าน Digital ID แทนได้ หรือบางสถานที่อย่างสถานบันเทิงที่อยากทราบว่า เราอายุเกิน 21 หรือเปล่า หรือบางแห่งอยากเช็กว่าเราเป็นคนไทยหรือไม่ ก็สามารถสแกนเพื่อเช็กข้อมูลเหล่านั้นได้ หรือแม้แต่การสมัครเรียนออนไลน์ ต่อบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ เราก็สามารถใช้ Digital ID ในการยืนยันตัวตน และยืนยันในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่สำคัญได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล

          หากพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ข้อมูลที่ใช้ในการยืนยันตัวตนแบบ Digital ID จะถูกจัดเก็บอยู่ภายใต้เทคโนโลยีที่มีมาตารฐานความปลอดภัยขั้นสูงอย่างเช่น บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดการกระจายศูนย์ (Decentralized) ซึ่งผู้ดูแลระบบก็คือ บริษัท NDID อย่างไรก็ตามเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถมั่นใจได้ว่า NDID จะไม่เห็นข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระบบการทำงานของ NDID กับการใช้สำเนาเอกสารต่างๆ ในปัจจุบันถือว่ามีความปลอดภัยต่างกันมาก

 

คุณบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด หรือ NDID

          เทคโนโลยี Digital ID ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของโลกที่กำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของทั้งภาครัฐ และเอกชนเพื่อพัฒนาให้ทันสิ่งต่างๆ ที่กำลังเปลี่ยนแปลง แต่ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเท่านั้น ทุกอย่างจะสำเร็จและเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คุณบุญสันต์กล่าวปิดท้ายถึงเรื่องนี้ว่า

          “ผมคิดว่า Digital ID เป็นเพียงแค่ 1% ของภาพทุกอย่างทั้งหมด ต้องมีการร่วมมือกับอีกหลายฝ่ายเพื่อให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ งานที่เหลือส่วนใหญ่เป็นงานของระบบข้างหลังบ้านที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงถึงจะทำได้ดี เพราะฉะนั้น ภาคเอกชนที่ทำกันมาพัฒนากันมา และใช้กันมาสักพักแล้ว ต้องทำและทดลองใช้กันไป ส่วนในภาครัฐก็มีการเริ่มโครงการที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ถึงวันนั้นกระบวนการและต้นทุนต่างๆ จะลดลงไปได้เยอะ เพราะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้สนับสนุนทำให้กระบวนการต่าง ๆ  สะดวก ปลอดภัย และมีต้นทุนที่น้อยกว่าในปัจจุบัน...แต่จะถึงวันนั้นได้ต้องเริ่มจากพวกเราที่ต้องช่วยกัน”