ตอบทุกข้อสงสัย การใช้ DATA ต่อยอดอนาคตทางธุรกิจ

 

จบไปแล้วสำหรับงาน PTT Digital Day “Harnessing the Power of Data” งานสัมมนาครั้งสำคัญที่ช่วยเปิดมุมมองอนาคตของธุรกิจด้วยพลังของข้อมูล วันนี้เรารวบคำถามที่น่าสนใจจากในงาน เรื่องการนำ Data Analytic และ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระดับองค์กร เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านนำไปปรับใช้กับการทำงาน

 

การทำ Big Data Analysis ควรเป็นหน้าที่ของใครในองค์กร

ด้วยเครื่องมือในปัจจุบันที่ช่วยอำนวยคำวามสะดวกให้ “เกือบ” ทุกคนในองค์กรมีขีดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ด้วยตัวเอง โดยมี Data Engineer ทำหน้าที่ในการเตรียมข้อมูลที่เหมาะสมหรือง่ายต่อการนำไปวิเคราะห์และประมาลผล นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการเตรียมเครื่องมือวิเคราะห์ที่เหมาะสมกับข้อมูลรูปแบบต่างๆ

จำนวนข้อมูลเท่าใด ถึงจะเพียงพอต่อการนำมาวิเคราะห์ต่อ

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ คุณลักษณะของข้อมูล ขึ้นอยู่ว่าข้อมูลนั้นสามารถเป็นตัวแทนของ “การกระจายตัว” ของข้อมูลได้หรือไม่ ดังนั้นบางครั้ง เพียง ข้อมูลเพียง 10% ก็สามารถนำวิเคราะห์ได้ ถ้าเป็นตัวแทนจริง ๆ ของข้อมูล 

 

 

ปัจจุบันมีแนวคิดหรือวิธีการสำหรับการวัดคุณภาพของข้อมูล (Data Quality) ที่ใช้กันโดยทั่วไปหรือไม่ และถ้ามี มีวิธีการวัดหรือประเมิน Data Quality อย่างไร

วิธีการวัดคุณภาพของข้อมูลที่นำมาใช้ ควรดูว่าตัวข้อมูลประกอบไปด้วย 5 คุณลักษณะดังนี้ ความถูกต้อง (Accuracy) ความสมบูรณ์ (Completeness) ความเที่ยง (Consistency) ความตรงตามกาล (Timeliness) ความเป็นเอกลักษณ์ (Uniqueness) และความแม่นตรง (Validity)

มีเทคนิค ในการเปลี่ยนรูปแบบคำถาม ให้สามารถตอบด้วย model อย่างไรบ้าง

สิ่งที่ทำได้คือ การนำคำถาม มาแปลงเป็นคำถามย่อยหลายคำถาม เพื่อให้ตอบคำถามด้วยโมเดลแต่ละโมเดลได้ อย่างไรก็ตามหากเป็นคำถามจากคนที่อยู่ใกล้ชิดข้อมูลและเข้าใจเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูล จะเป็นคำถามที่สามารถหาคำตอบด้วย model ได้ง่ายกว่าคำถามที่มาจากผู้ตั้งคำถามในระดับบริหารที่ "ห่าง" จากการเห็นข้อมูลและเทคนิคจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำถามที่ค่อนข้างแปลงได้ยาก

การวิเคราะห์ Big Data Analytic ต้องใช้ Machine Learning เข้ามาช่วยวิเคราะห์เสมอเลยหรือไม่ หรือสามารถใช้เครื่องมือ อื่นๆ ในการวิเคราะห์ได้

ไม่จำเป็นเสมอไป เนื่องจากบทบาทเดิมของ Machine Learning ส่วนใหญ่ คือ การสร้าง model จากตัวอย่างที่มี เพื่อทำนายผลลัพธ์ของข้อมูลใหม่ แต่ปัจจุบัน เราใช้ Machine Learning เพื่อทำความเข้าใจข้อมูลมากขึ้น ดังนั้น หากเราสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ในการ "ได้มา" ซึ่งความเข้าใจข้อมูลแล้ว

 

 

การใช้เทคโนโลยี Blockchain มีความเสี่ยงบ้างหรือไม่

การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้อาจพูดไม่ได้ว่ามีความเสี่ยง แต่มีบางประเด็นที่ควรรู้ เพื่อนำมาเป็นข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ผู้ใช้งานต้องทราบว่าข้อมูลที่จัดเก็บบน Blockchain นั้นจะไม่สามารถลบออกได้ ดังนั้นต้องออกแบบการจัดเก็บข้อมูลให้สอดรับกับ หพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA
  • ไม่ใช่ทุกระบบที่จำเป็นจะต้องนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน เช่น ระบบที่ทุกฝ่ายเชื่อมั่นและไม่มีความกังวลใจในการที่ระบบกลางหรือคนกลางจะเห็นข้อมูลของกันและกัน ซึ่งระบบลักษณะดังกล่าวสามารถใช้เทคโนโลยี Centralize Database ได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้ Blockchain
  • การเชื่อมต่อระหว่าง วง Blockchain หรือที่เรียกว่า Interop ข้ามในแต่ละวง ยังไม่มีความชัดเจนมากนักในปัจจุบัน เนื่องจากในปัจจุบัน Blockchain มีหลากหลายค่าย เช่น Hyperledger Fabric , Hyperledger Indy , Hyperledger Besu, Corda, Ethereum เป็นต้น ดังนั้นในการเชื่อมต่อวง Blockchain  ที่ต่างค่ายกันยังต้องใช้ API Interface ในการดำเนินการ ซึ่ง API ยังถือเป็นความเสี่ยงแบบ Centralize อยู่  ต้องมี Key Management ที่ดีเพียงพอหากจะใช้ API ในการทำ Interoperability Module ระหว่างวง Blockchain  
  • ในการเลือกใช้ผู้ให้บริการ Blockchain ควรเลือกให้ถี่ถ้วน เนื่องจาก Blockchain มีรายละเอียดปลีกย่อยของการใช้งานในแต่ละผู้ให้บริการที่หลากหลาย

กรณีที่ Time zone ต่างกันจะมีผลต่อความสมบูรณ์ในการทำงานของ Blockchain หรือไม่

Time zone ที่ต่างกันไม่เป็นเป็นหาในการทำงาน เนื่องจากสามารถทำ Time Zone Auto Convert ได้

 

หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ Data Anlytic หรือ เทคโนโลยี Blockchian หรือต้องการติดต่อสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ PTT Digital Solution สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Marketing@pttdigital.com