โครงการ D-NEXT ก้าว (กระโดด) สำคัญต่อไปของกลุ่ม ปตท.
ผลจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของสตาร์ทอัพ สร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจขนาดใหญ่ หันมาสนใจและค้นหาวิธีที่จะสร้างการเติบโตให้ได้เร็ว เพื่อเอาชนะความท้าทายด้านกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน และวัฒนธรรมองค์กรแบบเดิมๆ ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และความร่วมมือกับสตาร์ทอัพต่างๆ เพื่อเฟ้นหาธุรกิจใหม่ (New S-Curve) สร้างรายได้แบบก้าวกระโดด
สำหรับกลุ่มปตท. ได้จัดทำ Accelerator Program โปรแกรมเร่งสปีดพัฒนาธุรกิจสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพผ่านการลงทุน หรือร่วมเป็นพันธมิตรกัน* ภายใต้ชื่อโครงการ D-NEXT ดำเนินการโดย PTT Digital ร่วมกับ RISE Accel สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ เพื่อค้นหาและคัดเลือกสตาร์ทอัพในระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็น Accelerator Program โครงการแรกของประเทศไทยที่ดำเนินการในระดับภูมิภาค เฟ้นหา start up จากทั่วภูมิภาคอาเซียนรวม 5 ประเทศได้แก่ สิงค์โปร์, ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม อ่านมาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนอาจสงสัยหรืออาจจะยังไม่เข้าใจว่าประโยชน์ที่กลุ่ม ปตท. จะได้รับจากโครงการนี้คืออะไร เราได้สรุปไว้ให้ทุกคนได้กระจ่างดังด้านล่าง
ปัจจุบันการดำเนินการของโครงการนี้ อยู่ในช่วงเปิดรับสมัครสตาร์ทอัพจากทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยทีมงานโครงการ D-NEXT เดินสาย ROADSHOW ประชาสัมพันธ์โครงการร่วมกับ local accelerator และ สื่อมวลชนท้องถิ่นในแต่ละประเทศ โดยนอกเหนือจากการประชาสัมพันธ์แล้ว ทีมงานยังคัดเลือกใบสมัครของสตาร์ทอัพของแต่ละประเทศที่นำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมที่น่าสนใจ มานำเสนองาน (Pitching) แบบ one on one โดยคณะกรรมการผู้พิจารณาเป็นผู้บริหาร PTT Digital, RISE Founder และ ผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละประเทศ โดยผู้ชนะจะได้รับสิทธิในการผ่านเข้ารอบ 30 ทีม และคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีม เพื่อเข้าอบรมใน Boot Camp
สำหรับประเทศแรกของการเดินทางไป ROADSHOW ได้แก่ ประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากทั้งสตาร์ทอัพและหน่วยงานต่าง ๆ ใน ecosystem เป็นอย่างดี การนำเสนองาน (Pitching) ของสตาร์ทอัพในสิงค์โปร์เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยนวัตกรรมที่สตาร์ทอัพแต่ละรายนำเสนอนั้นมีหลากหลาย เช่น Fin Tech, Med Tech, Clean Tech, Energy Saving Tech เป็นต้น โดยบริษัทที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่น มีแผนธุรกิจที่น่าสนใจ และมีตลาดรองรับการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ตรงตามเกณฑ์การตัดสินของคณะกรรมการมากที่สุดได้แก่ บริษัท BPP ซึ่งทำธุรกิจด้านนวัตกรรมประหยัดพลังงานในสิ่งปลูกสร้าง อาคาร ช่วยลดการใช้พลังงานของอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่บ้างแล้ว แต่ต้องการเงินทุนไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น
การคัดเลือกสตาร์ทอัพที่จะได้สิทธิพิเศษผ่านเข้ารอบ 30 ทีมแรก ยังเหลืออีก 4 ประเทศ มาร่วมติดตามกันว่าสตาร์ทอัพรายใดจะได้สิทธิเข้ารอบ และสตาร์ทอัพรายใดจะร่วมสร้างรายได้แบบก้าวกระโดดให้กับบริษัทกลุ่ม ปตท. ต่อไป ชอบทีมไหน เชียร์ทีมไหน มาร่วมติดตามโครงการ D-NEXT กัน แล้วพบกันในฉบับถัดไป
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ หรืออยากแนะนำสตาร์ทอัพที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมโครงการ D-NEXT สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ http://www.riseaccel.com/dnext/ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 มีนาคม 2561